7.26.2553

แกงส้มปูไข่ใบชะคราม



แกงส้มปูไข่ใบชะคราม
ใบชะครามเป็นพืชไม้พุ่มเตี้ยที่ขึ้นอยู่ตามชายทะเลหรือป่าชายเลน ใบมะลักษณะกลมอวบใบแหลมคล้ายเมล็ดข้าวสาร ใบจะชุ่มน้ำมาก มีหลายสี ทั้งเขียว เขียวอมม่วง ม่วงคราม
วิธีการกินใบชะครามต้องนำมาต้มเพื่อขจัดรสกร่อยของน้ำทะเลก่อน โดยต้มทั้งก้านให้ใบนิ่ม แล้วรูดเอาแต่ใบมาฟั่นในน้ำเกลือจนหมดรสกร่อย แล้วจะเอามาชุบแป้งทอด กินกับน้ำพริกกะปิ
หรือกินเป็นผักลวกก็ได้ วันนี้มีเมนูอาหารจากใบชะคราม คือ แกงส้มปูไข่ใบชะคราม

ส่วนผสม
ใบชะคราม 1 ถ้วย
ปูไข่ 1 ตัว
น้ำมะขามเปียก 1/2 ถ้วย
น้ำตาลปิ๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1 ช้อนชา
น้ำเปล่า 5 ถ้วย
น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1. นำใบชะครามมาต้มให้รสปร่าลดลงก่อน เทน้ำร้อนออก ขยำกับน้ำประมาณ 3-4 ครั้ง บีบน้ำออกให้สะเด็ดน้ำ ใส่ถ้วย พักไว้ก่อน
2.ล้างขัดกระดองปูให้สะอาด แกะกระดองออก แกะตะปิ้งและถุงลมออก ล้างแล้วหั่นครึ่งตัว ทุบก้ามปูพอแตก จากนั้นลวกปู ในหม้อน้ำร้อนจนเกือบสุก ตักขึ้นใส่ชาม พักไว้
3.ทำน้ำพริกแกงส้มโดยโขลกพริกแห้ง พริกขี้หนู หอมแดงและกะปิ และเกลือ โขลกรวมกันจนละเอียดเข้ากันดี ตักใส่ถ้วย
4.ต้มน้ำในหม้อด้วยไฟกลางจนเดือด ไส่น้ำพริกแกงที่โขลกไว้ลงไป คนให้เข้ากันทั่ว พอน้ำแกงเดือดใส่ปูไข่ที่ลวกลงไป รอ ให้เดือด ใส่ใบชะคราม ปรุงรสด้วย น้ำมะขามเปียก น้ำปลา เกลือ และน้ำตาล คนให้เข้าเครื่อง ปิดไฟ ตักใส่ถ้วย เสิร์ฟได้ทันที


7.17.2553

ต้มกะทิสายบัวปลาทู



ต้มกะทิสายบัวปลาทู

ต้มกะทิสายบัวปลาทู เป็นอาหารไทยพื้นบ้าน ที่อยู่คู่กับคนไทยมาตั้งแต่โบราณ เพราะเมืองไทยอุดมสมบรูณ์ มีแม่น้ำลำคลอง มากมายในน้ำจะมีสายบัว ดอกบัว นำมาประกอบเป้นอาหารได้หลายชนิด
สายบัวเป็นก้านของดอกบัวที่มีเหง้าอยู่ใต้ดิน หอมบัวมีกลิ่นหอม สายบัวกินได้ทั้งแบบสดและแบบต้ม นำมาทำเป็นเมนูอาหารไทยได้หลากหลาย หนึ่งในนั้นก็คือ ต้มกะทิสายบัวกับปลาทู

ส่วนผสม
ปลาทูนึ่ง 3 ตัว(ใช้ปลาทูสดก็ได้)
สายบัว 200 กรัม
มะดัน 3 ลูก
หอมแดงซอย 5 หัว
พริกไทยเม็ด 9 เม็ด
กะปิ 2 ช้อนชา
กะทิ 2 ถ้วย
หัวกะทิ ½ ถ้วย
เกลือป่น ½ ช้อนชา
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1.ลอกเปลือกสายบัวออกแล้ว หักเป็นท่อนๆพอดีคำ

2.โขลกเครื่องแกง โดยใส พริกไทย กะปิ หอมแดง โขลกรวมกันให้ละเอียด ตักใส่ถ้วยไว้

3.นำมะดันมาล้างให้สะอาดแล้วหั่นเป็นชิ้นๆหยาบๆ

4.ตั้งหม้อต้มกะทิ ใส่เครื่องแกงที่โขลกไว้แล้วลงไป หมั่นคนอย่าให้กะทิแตกมัน ใส่มะดันซอยลงไป ต้มพอเครื่องแกงหอม มะดันสุกแล้ว ใส่ปลาทูนึ่ง(ถ้าเป็นปลาทูสดต้องใส่ตอนน้ำเดือดจัด)

5.ใส่สายบัว พอสายบัวสุกปรุงรสด้วย เกลือ น้ำตาล ชิมรสให้ออกเปรี้ยว เค็ม หวาน จากนั้นใส่หัวกะทิลงไป ปิดไฟ

6.ตักใส่ถ้วยพร้อมเสิร์ฟร้อนๆ

7.10.2553

แกงหมูชะมวง



หมูชะมวง
ชะมวงเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ใบอ่อนมีสีม่วงแดงหรือเขียวอ่อน ใบมีรสเปรี้ยวจัด ใบนิยมนำมาทำเป็นอาหาร เช่น แกงส้มไข่ปลาเรียวเซียว แกงชะมวงกับเนื้อวัว และหมุชะมวง การนำมาแกงต้องเลือกใบชะมวงที่ไม่อ่อนและแก่เกินไป ใช้มือฉีก เอาก้านใบออก การขยำใบชะมวงให้ช้ำ จะดีกว่าการใช่มีดหั่นเพราะรสเปรี้ยวจะออกได้ดีกว่า


ส่วนผสมหมูชะมวง
เนื้อหมูสามชั้น 500 กรัม
ใบชะมวง 100 กรัม
น้ำตาลทราย ¼ ถ้วย
น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 1 ถ้วย
พริกแกงเผ็ด ½ ถ้วย

ส่วนผสมเครื่องแกง(พริกแกงเผ็ด)
พริกแห้งเม็ดใหญ่ 10 เม็ด
กระเทียมไทย 1 หัว
หอมแดงวอย 1 ช้อนโต๊ะ
ผิวมะกรูดหั่น 1 ช้อนชา
เกลือป่น ½ ช้อนชา
ข่าหั่น 3 ช้อนโต๊ะ
กะปินิดหน่อย

วิธีการทำ
1.เตรียมโขลกพริกแกงไว้ก่อน โดยแช่พริกแห้งในน้ำจนนุ่มแล้วแกะเอาเมล็ดพริกออกจนหมด โขลกรวมกับ เกลือ กระเทียม ผิวมะกรูด ข่า หอมแดงซอยและกะปิ โขลกจนส่วนผสมละเอียดดี ตักใส่ถ้วยไว้

2.ล้างหมูสามชั้นแล้วหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ เตรียมไว้

3.ล้างใบชะมวง ฉีกเอาก้านใบออกให้หมดขยำให้ช้ำนิดหน่อย
4.ตั้งกระทะใช้ไฟปานกลาง ใส่พริกแกงลงไปผัดให้เหลืองหอม ใส่หมูลงไป คลุเคล้าให้เข้าเครื่องแกง เติมน้ำเปล่าลงไป ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำตาล คนคลุกเคล้าให้ทั่ว จากนั้นใส่ใบชะมวงลงไป ตั้งไฟอ่อนๆเคี่ยวหมูกับใบชะมวงไปเรื่อยๆจนหมูสุกนุ่ม คอยระวังอย่าให้น้ำแห้ง เติมน้ำลงไปเรื่อยๆ

5. ตักเสิร์ฟร้อนๆกินกับข้าวสวย

*** เทคนิค คือ เคี่ยวหมูให้นาน 2-3 ชั่วโมง หรือแกงไว้ข้ามคืนก็ได้ หมูจะนุ่มใบชะมวงเปื่อยเข้าเนื้อ